Carnivore Diet คืออะไร กินเนื้อลดน้ำหนัก ผอมเร็วจริงไหม

สูตรลดความอ้วนที่ใครว่าดี เราก็อยากรู้และอยากลองไปหมด ไม่ว่าจะลดน้ำหนักแบบคีโต สูตร IF รวมไปถึงสูตรกินเนื้อลดน้ำหนัก (Carnivore Diet) ที่วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกันด้วย ลองมาดูค่ะว่า การกินแต่เนื้อล้วน ๆ ไม่มีแป้งมาเกี่ยว สูตรลดความอ้วนแบบนี้เวิร์กกับใครบ้าง แล้วมีผลข้างเคียงที่ต้องระวังไหม

Carnivore Diet คืออะไร

Carnivore Diet เป็นสูตรลดน้ำหนักที่เน้นการกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ นม เนย โยเกิร์ต เครื่องเทศ พริกไทย เกลือ สมุนไพรต่าง ๆ เช่น ขมิ้น โดยไม่กินอาหารจากพืช ผัก ผลไม้ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสูตรลดน้ำหนักแบบ CD ก็ไม่ใช่วิธีใหม่ โดยมีรายงานทางการแพทย์ว่า Carnivore Diet เป็นสูตรอาหารที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบในร่างกาย เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือโรคพุ่มพวง เป็นต้น

ทั้งนี้ในการลดน้ำหนัก ผู้ที่กิน Carnivore Diet จะยึดหลักกินแค่พออิ่มร่วมด้วย คือกินเมื่อหิว หยุดกินเมื่อรู้สึกอิ่ม ไม่ได้กำหนดแคลอรี ไม่จำกัดชั่วโมงในการกิน ในช่วงแรก ๆ สามารถกินเท่าไรก็ได้ให้ตัวเองรู้สึกอิ่ม แล้วหลัง ๆ จะรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จนกินได้น้อยลงเรื่อย ๆ เพราะร่างกายเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะคีโตสิส (Ketosis) หรือภาวะที่ร่างกายเริ่มเผาผลาญไขมันที่เก็บสะสมมานาน มาใช้เป็นพลังงานนั่นเอง

Carnivore Diet กินอะไรได้บ้าง

อาหาร CD สามารถกินได้ตามนี้

– เนื้อสัตว์ทุกชนิด

– อาหารทะเล

– เครื่องในสัตว์

– ไข่

– เนยแท้

– ชีส

– วิปครีมที่ทำจากนมวัว (Heavy Cream)

– เครื่องเทศ เช่น ขมิ้นชัน พริกไทย

– เกลือ

– น้ำเปล่า

– น้ำแร่

– กาแฟดำ

– โซดา

– น้ำมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู น้ำมันไก่ (สำหรับประกอบอาหาร)

– กะปิแท้

– น้ำปลาแท้

– น้ำซุปจากการต้มกระดูก

Carnivore Diet กินอะไรไม่ได้บ้าง ?

– ผักและผลไม้ทุกชนิด

– ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ถั่ว

– ข้าวทุกชนิด

– พืชประเภทหัว เช่น เผือก มัน

– ขนมปัง เค้ก คุกกี้ ลูกอม

– อาหารประเภทเส้น เช่น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี พาสต้า

– น้ำตาล รวมทั้งหญ้าหวาน สารให้ความหวานแทนน้ำตาล น้ำเชื่อม ไซรัป

– น้ำผลไม้

– น้ำอัดลม

– ชา

– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

– นม (ตามสูตรการกินเพื่อรักษาโรค CD จะดื่มนมได้ แต่สำหรับการลดน้ำหนักจะไม่ค่อยดื่มนมหรือกินผลิตภัณฑ์จากนมกัน เพราะส่วนมากจะมีส่วนผสมของน้ำตาล)

Carnivore Diet ต่างกับ Ketogenic Diet อย่างไร

 

ทั้ง Carnivore Diet และ Ketogenic Diet ก็เป็นวิธีลดน้ำหนักที่เลี่ยงคาร์บเหมือนกัน เพียงแต่การลดน้ำหนักแบบ CD จะไม่กินคาร์บ (Zero carb) ไม่กินผัก ผลไม้ หรือน้ำตาลเลย แต่ให้รับประทานอาหารจากเนื้อสัตว์ล้วน ๆ ขณะที่ การกินคีโตยังกินธัญพืชและผลไม้ได้บางชนิด เพราะเน้นการกินไขมันเป็นสำคัญ แตกต่างจาก Carnivore Diet ที่จะไม่ได้เน้นกินไขมันเพื่อลดไขมันอย่างหลักการของ Ketogenic Diet ด้วย

Carnivore Diet ลดน้ำหนักได้ดีแค่ไหน

การลดน้ำหนักแบบ Carnivore Diet จะเป็นการกินเพื่อปรับสภาพร่างกายให้เลิกใช้พลังงานจากน้ำตาล รวมไปถึงการย่อยแป้งเป็นน้ำตาล ให้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมในร่างกาย ซึ่งตามหลักการแล้วการกินอาหารแบบเน้นกินโปรตีน และลดแป้งก็ช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริง เพราะการกินโปรตีนจะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม ส่งผลให้การเผาผลาญไขมันดีขึ้นด้วย
ดังนั้นหากลดน้ำหนักด้วยสูตร Carnivore Diet อย่างเคร่งครัด ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายค่อนข้างชัด เพราะเป็นการตัดแป้ง ตัดน้ำตาลออกไปจากวงจรอาหารของเราเลย แต่ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นสูตรที่หินและค่อนข้างทำยากพอสมควร เพราะโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์จะต้องกินคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานจากไกลโคเจน และการกินอาหารประเภทแป้งหรือน้ำตาลจะช่วยให้รู้สึกมีความสุขได้ ที่สำคัญคือเป็นความคุ้นเคยของเรามาตั้งแต่เกิด ดังนั้นคนที่จะลดน้ำหนักแบบ CD สำเร็จ อาจต้องใช้พลังใจและวินัยเป็นอย่างมาก และอาจกินเนื้อลดน้ำหนักไปไม่ได้ตลอด พูดง่าย ๆ ว่าวิธีนี้อาจไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน และหากกลับมากินคาร์บอีกครั้ง อาจจะเสี่ยงกับการโยโย่ได้

ลดน้ำหนักแบบ Carnivore Diet ยังไงให้ลดได้จริง

 

การลดน้ำหนักแบบตัดแป้งไปเลย ย่อมทำให้น้ำหนักลดลงค่อนข้างเร็ว แต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะน้ำหนักที่หายไปอาจเป็นเพียงน้ำในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อด้วย เพราะร่างกายต้องการไกลโคเจนจากคาร์โบไฮเดรตมาเป็นพลังงาน แต่เมื่อเราไม่กินแป้ง ไม่มีไกลโคเจนให้ร่างกาย ร่างกายก็จะไปดึงไกลโคเจนที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานให้เราแทน และจะปรับโหมดทำงานลดลง เพื่อเซฟการใช้พลังงานของร่างกาย ดังนั้นหากกินเนื้อลดน้ำหนักและงดแป้งอย่างเดียวโดยไม่ออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงไม่กินอาหารให้ถึงปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ก็อาจส่งผลให้มวลกล้ามเนื้อหาย ผอมแต่โทรม และอาจทำให้ระบบเมตาบอลิซึมทำงานช้าลง เพราะคิดว่าร่างกายไม่มีอาหารมาเป็นแหล่งพลังงาน ดังนั้นไม่ว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีไหน ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ หรือนักกำหนดอาหารจะดีกว่า

Carnivore Diet ประโยชน์คืออะไร

ถ้าตามหลักการแพทย์แล้ว สูตรการกินแบบ CD หรือกินแต่เนื้อ ไม่กินแป้ง เป็นสูตรอาหารที่ช่วยตัดแคลอรีจากอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรืออาหารที่ให้พลังงานแต่ไม่ได้ให้ประโยชน์ใด ๆ อย่างน้ำอัดลม น้ำหวาน ของหวาน โซดา เบเกอรี่ต่าง ๆ จึงอาจมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ และ Shawn Baker คุณหมอด้านกระดูก ผู้สนับสนุนการกินแบบ CD ยังอ้างผลทดสอบในกลุ่มตัวอย่างที่กิน CD แล้วพบว่า วิธีการกินแต่เนื้อช่วยรักษาอาการซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคข้อ โรคเบาหวาน และโรคอ้วนได้ แต่อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันก็ยังไม่มีงานวิจัยถึงผลกระทบของการกิน Carnivore Diet มากนัก โดยเฉพาะหากกินในระยะยาว

Carnivore Diet ข้อเสียคืออะไร

แน่นอนว่าการกินแต่เนื้ออาจไม่ใช่แนวทางการกินอาหารที่ถูกหลักทางโภชนาการนัก โดยโทษของการกินแบบ CD ก็คือ…

– ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่

– ขาดไฟเบอร์ ทำให้ท้องผูกง่าย

– ระบบย่อยอาหารอาจจะมีปัญหา เพราะไม่ได้กินไฟเบอร์ที่ช่วยย่อยหรือช่วยในการขับถ่าย

– เสี่ยงมีระดับไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง จากการกินไขมันจากสัตว์มากเกินไป

– ขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้ง ผม เล็บเปราะบาง อ่อนเพลีย ดังนั้นหากจะลดน้ำหนักด้วยสูตรนี้ ต้องกินพวกวิตามิน และเกลือแร่เสริมด้วย

– ร่างกายอาจได้รับโซเดียมมากเกินความต้องการจากเนื้อสัตว์แปรรูป เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

– การกินพวกเนื้อสัตว์แปรรูปเยอะ ๆ ยังอาจเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้มากขึ้น เพราะกินแต่เนื้อและไม่กินผัก-ผลไม้ ร่างกายก็จะไม่ได้สารต้านอนุมูลอิสระเลย

Carnivore Diet ไม่เหมาะกับใครบ้าง

ต้องบอกว่า Carnivore Diet ไม่ใช่สูตรการกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักตั้งแต่แรก แต่แพทย์ใช้รักษาอาการผู้ป่วยที่มีปัญหาการอักเสบของร่างกายเท่านั้น ที่สำคัญยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์มายืนยัน หรือมีผู้เชี่ยวชาญคนไหนมาฟันธงได้ว่า Carnivore Diet เป็นสูตรลดน้ำหนักที่เวิร์กและแนะนำให้ใช้ลดความอ้วนกัน
นั่นหมายความว่า สูตรอาหาร CD ไม่ได้เหมาะกับทุกคน กินระยะยาวอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพมากกว่าผลดีต่อร่างกาย เช่น ผู้ป่วยที่ต้องจำกัดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ อย่างผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง รวมไปถึงคนที่มีภาวะไวต่อคอเลสเตอรอล อาจเสี่ยงได้รับคอเลสเตอรอลจากเนื้อสัตว์มากเกินไป ส่งผลให้เสี่ยงโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ตามมาได้

          หากต้องการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน ไม่เสี่ยงโยโย่ ก็ควรเลือกลดน้ำหนักในทางสายกลาง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินแต่พอประมาณ รวมทั้งหมั่นออกกำลังกาย ที่น่าจะเป็นแนวทางการลดน้ำหนักที่ทำได้ง่ายและทำได้นานกว่าสูตรลดน้ำหนักที่เข้มข้นสูตรอื่น ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก
กองการแพทย์ทางเลือก
healthline
draxe.com